ในการจัดมวลประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียนนั้นผู้กำหนดหลักสูตร
หรือนักพัฒนาหลักสูตรได้อาศัยปัจจัยทาง สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง ปรัชญา
และจิตวิทยา มาเป็นตัวบ่งชี้จุดมุ่งหมายในหลักสูตร
และจุดมุ่งหมายนี้เองก็กลับมาเป็นเกณฑ์ในการจัดมวลประสบการณ์ให้ผู้เรียน ดังนั้น
หลักสูตรจึงมีการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการไปตามความเปลี่ยนแปลงของปัจจัยต่างๆ
ดังกล่าว ซึ่งพอสรุปได้ดังนี้
1.
ปัจจัยทางด้านสังคม
หลักสูตรเกี่ยวกับสังคม
เพราะ โดยปกติสังคมเป็นตัวกำหนดเป้าหมายการศึกษาด้วยสังคม คาดหวัง
1.1 การศึกษาจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆให้สังคม
ทั้งที่เป็นปัญหาร่วม อย่างปัญหาการคมนาคม ปัญหาเรื่องความปลอดภัยในทรัพย์สิน
และชีวิตหรือปัญหาย่อยเฉพาะของแต่ละสังคม เช่น
สังคมเมืองอาจประสบปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ การจราจร
ขณะที่สังคมชนบทมีปัญหาเรื่องสุขภาพอนามัย เป็นต้น การกำหนดทิศทางของการศึกษาจึงเพื่อแก้ปัญหาใหญ่อันเป็นปัญหาร่วมของสังคม
และยืดหยุ่นให้สังคมย่อยนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสังคมนั้นๆ
1.2
การศึกษาจะช่วยให้คนในสังคมสามารถปรับตัวได้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามความก้าวหน้าของวิทยาการและเทคโนโลยีใหม่ๆ
การจัดจึงต้องมีการเตรียมบุคคลให้เหมาะสมกับความต้องการของสังคมในอนาคตด้วย
1.3 การศึกษาจะช่วยให้คนเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม
จึงต้องปลูกฝังค่านิยม ศิลปวัฒนธรรม และความสำนึกที่ดีให้แก้ผู้เรียน
2.
ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
การวามแผนทางการศึกษา
จำเป็นต้องพิจารณาจึงโครงสร้างและแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
เพราะภาวะเศรษฐกิจมีผลต่อการศึกษาของประชาชนอยู่มาก กล่าวคือ
ประการแรกเศรษฐกิจเป็นทุนของการศึกษา
ผู้ที่มีฐานะท่งเศรษฐกิจดีจะมีโอกาสได้รับการศึกษาสูง
ผู้ที่ยากจนจะไม่มีโอกาสที่จะศึกษาได้
ประการทีสองเศรษฐกิจต้องการกำลังคนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
การศึกษาจะช่วยพัฒนาคนเพื่อไปเป็นกำลังแรงงานที่มีความสามารถทางเศรษฐกิจ
เป้าหมายทางการศึกษาที่มีความสัมพันธ์กับภาวะเศรษฐกิจที่ทำอยู่ในปัจจุบัน
จึงสรุปได้ดังนี้
2.1
เนื่องจาประชาชนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรม การศึกษาจึงควรมุ่งพัฒนาเกษตรกรรม
เพื่อช่วยให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี
2.2
เศรษฐกิจของสังคมไทยควรได้มีการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น
การศึกษาจะสอนให้รู้จักวิธีดารใช้และเก็บรักษาเครื่องมือ เครื่องจักรกล
ให้ความรู้เรื่องการใช้แรงงานตามสภาพความเหมาะสมในท้องถิ่น
2.3
การจัดการศึกษาต้องพยายามสร้างทักษะอย่างแท้จริงในทุกวิชา
และมุ่งปรับปรุงการเกษตรให้มีคุณภาพ และให้ผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.4
การศึกษาจะต้องฝึกฝนให้คนรู้จักทำงานร่วมกัน รู้จักจัดซื้อ และการจัดจำหน่าย
รวมทั้งการลงทุนที่ประหยัดแต่ให้ผลคุ้มค่าสูงสุด
3.
ปัจจัยทางด้านปรัชญา ศาสตราจารย์
ดร.วิจิตร ศรีสะอ้าน ได้สรุปไว้ดังนี้
3.1
เนื้อหาสาระของการศึกษา ปรัชญา
มีส่วนช่วยกำหนดจุดมุ่งหมายของการศึกษาเพื่อให้ได้แนวทางการจัดการศึกษาที่ดีที่สุด
เพื่อชีวิตและสังคมปัจจุบันและอนาคต
3.2
ด้านวิทยาการ ปรัชญามีส่วนช่วยวิเคราะห์ สังเคราะห์
ตีความโดยใช้เหตุผลตามหลักตรรกวิทยา เกี่ยวกับคำและแนวคิด หลักการทางการศึกษา
เพื่อให้เกิดความชัดเจนในความคิดซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นใจในการปฏิบัติงาน
4.
ปัจจัยทางด้านการเมืองการปกครอง
การจัดการศึกษากับการเมืองการปกครองมีความสัมพันธ์กันมาโดยตลอด รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการศึกษา
ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ เพื่อเสริมสร้างบุคคลให้มีความรู้สำนึกและมีความรับผิดชอบทั้งต่อสังคมและตนเอง
มีความคิดและความสามารถในการประกอบอาชีพ มีจริยธรรม คุณธรรม วัฒนธรรมพลานามัย
ระเบียบวินัย มีความรัก และธำรงศิลปวัฒนธรรม ความเป็นไทย หวงแหนแผ่นดินเกิด
ตลอดจนมีความซาบซึ้งและสามารถมีส่วนร่วมในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
โดยจะเร่งดำเนินการดังนี้
1.
จะจัดการศึกษาทุกระดับและทุกประเภททั้งในและนอกระบบโรงเรียนให้ประสานสัมพันธ์กัน
และสอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
2.
จะปรับปรุงโครงสร้างระบบบริหารและการจัดการศึกษาทุกระดับและทุกประเทศให้มีเอกภาพประสานสัมพันธ์กัน
ทั้งในระดับนโยบาย
และระดับปฏิบัติจะสนับสนุนให้สถานศึกษาและหน่วยงานใช้ทัพยากรรวมกัน
เพื่อให้การจัดการศึกษามีประสิทธิภาพสูงสุด
3.
จะจัดและส่งเสริมให้สถานศึกษาทุกระดับเป็นศูนย์บริการด้านการศึกษาวิชาชีพ ศิลปะ
วัฒนธรรม กีฬา พลานามัย นันทนาการและข่าวสาร
4.
จะเร่งปรับปรุงคุณภาพของการศึกษาทุกระดับ
โดยปรับปรุงระบบการวางแผนการบริหาร การเรียนการสอน
การกำหนดมาตรฐานและวิทยฐานะ ระบบการติดตามประเมินผล ตลอดจนการนิเทศการศึกษา เพื่อให้เกิดความเสมอภาคกันทุกระดับและคำนึงถึงความต้องการของท้องถิ่นเป็นสำคัญ
5.
จะสงเสริมการพัฒนาหลักสูตร
สื่อการเรียนและเทคโนโลยีใหม่ๆตลอดจนสื่อมวลชนทั้งภาครัฐและเอกชนมาใช้เพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาคุณภาพ
6.
จะเร่งฝึกและอบรมในด้านระเบียบวินัย คุณธรรมความรู้จักรับผิดชอบต่อสังคมและตนเอง
ความรักในศิลปวัฒนธรรมละความสำนึกความเป็นไทยร่วมกัน เพื่อธำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์
เอกราช อธิปไตยของชาติ
และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
นอกจากนั้นจะส่งเสริมให้สถาบันศาสนาได้เข้ามามีบทบาทในการอบรมสั่งสอนด้านคุณธรรมให้มากขึ้น
7.
จะส่งเสริมให้ผู้สอนในทุกระดับการศึกษาละทุกประเภทได้รับการยกย่องเชิดชู
มีความก้าวหน้าและความมั่นคงในอาชีพ
8.
จะสนับสนุนส่งเสริมการวิจัย เผยแพร่การวิจัย
จัดให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้วิจัย
ส่งเสริมให้มีการนำผลการวิจัยไปใช้
เพื่อสนองความต้องการของชุมชนและความก้าวหน้าทางวิชาการ
9.
จะระดมทรัพยากรจากแหล่งต่างๆเพื่อนำมาใช้ในการขยายการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพ
และจะปรับปรุงวิธีการจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษา เพื่อให้มีความเสมอภาคทางการศึกษา
โดยเน้นการให้โอกาสแก่ผู้เรียน และกลุ่มชนที่มีโอกาสน้อย
10.จะสนับสนุนการจัดการศึกษาของสถานศึกษาเอกชน
โดยให้เอกชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาภายในขอบเขต และสัดส่วนที่เหมาะสม
นอกจากนั้นจะพยายามสนับสนุนให้สถานบันทางการเงินเข้าช่วยเหลือสถานศึกษาเอกชน
และส่งเสริมคุณภาพทางการศึกษาของสถานศึกษาเอกชนให้ดีขึ้น
11.
จะสนับสนุนกิจกรรมของนิสิตนักศึกษาทั้งในมหาวิทยาลัยและนอกมหาวิทยาลัยที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยส่วนร่วม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น